SERVICE

ทันตกรรมสำหรับเด็ก

การให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากตั้งแต่เด็ก เริ่มตั้งแต่มีฟันน้ำนมจะมีทั้งหมด 20 ซี่ โดยจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 6 เดือน และจะครบ 20 ซี่เมื่ออายุครบ 2 ขวบครึ่ง และจะอยู่ในปากไปตลอดจนกว่าฟันแท้จะโผล่ขึ้นมาแทนที่ จึงต้องดูแลฟันน้ำนมให้ดี ผู้ปกครองส่วนใหญ่คิดว่าไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมากนักกับฟันน้ำนม แต่ที่จริงแล้วสำคัญมากเพราะถ้าฟันน้ำนมเกิดความผิดปกติ จะส่งผลให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาแทนที่เกิดความผิดปกติ อาจขึ้นเป็นฟันซ้อนหรือฟันเกได้ ฟันน้ำนมนั้นมีหน้าที่กัด บดเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ช่วยในการออกเสียงพูด ดังนั้นถ้าไม่มีการดูแลฟันน้ำนมให้ดี จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก เช่น ถ้าฟันผุ ปวดฟัน เด็กจะไม่อยากกินอาหารและทำให้ขาดสารอาหาร ถ้าฟันหลุด ฟันบิ่น จะทำให้ออกเสียงพูดได้ไม่ชัด และทำให้เกิดปมด้อยในเด็ก จึงต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพช่องปากของเด็ก
        

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ปกครองต้องใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กและสร้างนิสัยในการดูแลด้วยการแปรงฟันที่ถูกต้อง ให้เด็กแปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง (ตอนเช้า, ก่อนนอน) และแนะนำเด็กให้กินอาหารที่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ไข่ นม ปลา ผลไม้ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกายและความแข็งแรงของฟัน ห้ามกินอาหารประเภทน้ำอัดลม น้ำหวาน ลูกกวาด เพื่อป้องกันฟันผุ หาเวลาว่างออกกำลังกายเพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทันตกรรมเด็กจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการป้องกัน และการรักษา โดยมีวิธีต่างๆ ดังนี้

 

  

 

- การตรวจฟัน ควรจะเริ่มพาบุตรหลานของท่านมาพบทันตแพทย์ เมื่อเด็กอายุประมาณ 2 ขวบ เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างเด็กและทันตแพทย์ 

- การอุดฟันน้ำนม

- การขัดฟัน และ เคลือบฟันด้วยฟลูออไรด์ 

- การทำความสะอาดฟัน ขูดหินปูน และขัดฟัน 

- การเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามน้ำนม

- การถอนฟันและการทำเครื่องมือคงสภาพช่องว่างไว้เพื่อรอให้ฟันแท้ขึ้นมาโดยไม่ซ้อนเก

- การรักษารากฟันในฟันน้ำนม

- การทำครอบฟันสแตนเลสให้กับฟันน้ำนม สำหรับฟันที่สูญเสียเนื้อฟันไปเยอะ ไม่สามารถบูรณะด้วยวิธีการอุดฟันแบบธรรมดาได้

 

 

การเคลือบฟลูออไรด์


        ฟลูออไรด์ คือสารที่มีฤทธิ์ในการป้องกันสุขภาพฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟลูออไรด์จะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรด เพิ่มความคงทนของฟัน การเคลือบฟลูออไรด์จึงเป็นการป้องกันฟันที่ดีสำหรับเด็ก โดยเริ่มตั้งแต่เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบ เพราะสามารถควบคุมการกลืนได้แล้วจะได้ไม่กลืนฟลูออไรด์ลงคอและควรเคลือบฟลูออไรด์ทุกๆ 6 เดือน จนถึงอายุ 13 ปี การเคลือบฟลูออไรด์ทันตแพทย์จะใส่ถาดเคลือบฟันให้เด็กประมาณ 4 นาที หลังจากนั้นห้ามเด็กกินอาหารหรือดื่มน้ำ หรือบ้วนปากประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ฟลูออไรด์เคลือบลงบนผิวฟัน